ในการต๊าบด้วยต๊าปคาร์ไบด์ มีข้อควรระวังอะไรบ้างคะ?
ในการจะใช้ต๊าปคาร์ไบด์ให้เหมาะสม ต้องควรระวังในการเลือกใช้วัสดุชิ้นงานอะไร โดยปกติต๊าปคาร์ไบด์มักใช้กับ เหล็กหล่อ หรืออลูมิเนียมฉีด
แต่ในทางกลับกันต๊าปคาร์ไบด์จะไม่เหมาะสมกับเหล็กกล้า หรือสแตนเลส และควรระมัดระวังเมื่อใช้ต๊าปคาร์ไบด์ กับเครื่องจักรที่ไม่ใช่เครื่อง CNC
หรือเครื่องจักรที่ไม่แข็งแรง เพราะจะเกิดปัญหาเกลียวล้ม และแตกหักได้
【คำแนะนำ】
ลักษณะของเศษ
วัสดุชิ้นงานที่เหมาะสม
ต๊าปคาร์ไบด์จะเหมาะสมกับงานประเภทเหล็กหล่อ
และอลูมิเนียมฉีด เนื่องจากเศษที่ขับออกมานั้น เป็น
แบบเล็กละเอียด (ตามรูปด้านข้าง)
ปัจจุบันต๊าปคาร์ไบด์นั้นยังถูกใช้ในการกัดวัสดุชุบแข็ง
ที่มีความแข็งถึง 60HRC หรือมากกว่านั้นเมื่อเปรียบเทียบกับต๊าปไฮสปีด ต๊าบคาร์ไบด์จะมี
ความเหนียวน้อยกว่าซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาเกลียวล้ม
และเกลียวแตกได้
ดังนั้นจึงต้องเลือกวัสดุชิ้นงานด้วยความระมัดระวัง
ในกรณีที่ใช้ต๊าบคาร์ไบด์ตัวอย่างต๊าบคาร์ไบด์
• N-CT FC : สำหรับเหล็กหล่อ
• N-CT LA : สำหรับอลูมิเนียม
• EH-CT : สำหรับเหล็กชุบแข็ง
ช่วยอธิบายความหมายของสัญลักษณ์ UNC และ UNF ที่ฉันสามารถเห็นได้จากแบบร่างของชิ้นงานด้วยค่ะ
ฉันต้องทำชิ้นงานที่มีขนาดเกลียว
1/4”-20UNC และ 1/4”-28UNF
UNC และ UNF เป็นสัญลักษณ์ของระบบเกลียวยูนิไฟน์ โดยระบบเกลียวยูนิไฟน์จะถูกกำหนดร่วมกันระหว่าง สหรัฐอเมริกา, หมู่เกาะบริเทน และแคนาดาในปี 1949 เพื่อให้สามารถใช้เกลียวร่วมกันได้ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสเปค บางอย่างเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
ระบบเกลียวยูนิไฟน์ แบ่งเป็นเกลียวหยาบ, เกลียวละเอียด และเกลียวละเอียดมาก เหมือนของระบบเกลียวเมตริกUNC : คือสัญลักษณ์ของเกลียวหยาบ
UNF : คือสัญลักษณ์ของเกลียวละเอียด
UNEF : คือสัญลักษณ์ของเกลียวละเอียดมาก
UNS : คือสัญลักษณ์ของเกลียวยูนิไฟน์พิเศษ
ถ้ามีการใช้ระบบเกลียวยูนิไฟน์ จะสามารถบอกค่าเส้นผ่าศูนย์กลางเกลียว, จำนวนเกลียวต่อความยาว 1 นิ้ว (TPI) และสามารถระบุเกลียวหยาบ หรือเกลียวละเอียดได้ง่าย เช่น 1/4”-20UNC มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1/4” แล มี 20 เกลียวต่อความยาว 1นิ้ว (TPI) และ UNC แสดงถึงเกลียวหยาบ แต่ถ้าเป็นระบบเกลียวเมตริก จะบอกเฉพาะค่าเส้นผ่าศูนย์กลางเกลียว เช่น
ฉันมีปัญหาเกลียวล้ม, เกลียวแตก กรณีต๊าปด้วย เครื่องจักร CNC กับต๊าป SP-PT
(ต๊าปเกลียวเลื้อยสำหรับเกลียวท่อเตเปอร์) ช่วยแนะนำวิธีแก้ปัญหาด้วยค่ะ
ปัญหาเศษติด เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้เกลียวล้ม เกลียวแตกได้ เราสามารถลดการเกิดปัญหานี้
ได้โดยการเปลี่ยนต๊าปที่ใช้จาก SP-PT เป็น SP-S-PT
[ตัวอย่าง : ก่อนและหลังการปรับปรุง]
【ก่อนปรับปรุง】
ต๊าป: SP-PT 1/4 (ประเภทเกลียวยาว)
วัสดุชิ้นงาน : SS400
เครื่องจักร : CNC
การป้อน : Fully synchronous
หัวจับ : หัวจับต๊าป
สารหล่อลื่น : น้ำหล่อเย็น
ลักษณะของเกลียวที่ล้ม
หลังจากที่ต๊าบด้วย SP-PT 1/4
ใช้ SP-S-PT 1/4 เพื่อ แก้ปัญหาเกลียวล้ม, เกลียวแตกได้
(ควรตรวจสอบระยะการสวม ของตัวท่อเกลียวนอกด้วย)【หลังปรับปรุง】
ต๊าป: SP-S-PT 1/4 (ประเภทเกลียวสั้น)
วัสดุชิ้นงาน : SS400
เครื่องจักร : CNC
การป้อน : Fully Synchronous
หัวจับ : หัวจับต๊าป
สารหล่อลื่น : น้ำหล่อเย็น
ความเร็วตัด : 3 เมตร/นาที
ลักษณะของเกลียวที่ดี
หลังจากที่ต๊าบด้วย SP-S-PT 1/4
เราจะตรวจสอบระยะการสวมของตัวท่อ เกลียวนอก ได้ตามคำแนะนำด้านล่าง
ไม่รู้ว่ามีเกลียวพิเศษเฉพาะที่ใช้ในจักรยานหรือเปล่าคะ
มีครับ
เราเรียกว่าเกลียวสำหรับจักรยาน โดยจะใช้สัญลักษณ์ “BC”
[คำแนะนำ]
จักรยานที่ผลิตในญี่ปุ่น จะถูกควบคุมการผลิตโดยมาตรฐาน JIS โดยจะมีเกลียวพิเศษสำหรับจักรยาน เพิ่มเติมจากเกลียวเมตริกทั่วไป ในมาตรฐาน JIS สัญลักษณ์ BC จะเป็นสัญลักษณ์เกลียวจักรยานที่ถูกใช้ในแบบ
“ใช้ทั่วไป” กับ “ใช้ในซี่ล้อจักรยาน” โดยประเภทของขนาดเกลียว และเกลียวจะถูกกำหนดจากชิ้นส่วนต่างๆ ของจักรยาน
General Use
Size Number of
ThreadsPitch Bolt screw
thread/heightRoot radius Internal Threads Applications Major Diameter
(Basic Size)Pitch Diameter
(Basic Size)Minor Diameter
(Basic Size)BC5/16 26 0.977 0.52 0.16 7.94 7.42 7.06 Front hub shaft BC3/8 26 0.977 0.52 0.16 9.53 9.01 8.65 Rear hub shaft BC7/16 26 0.977 0.52 0.16 11.11 10.59 10.23 Rear hub shaft for heavy load BC1/2 20 1.27 0.68 0.21 12.7 12.02 11.55 Pedal shaft(left, right), Gear crank (left, right) BC9/16 20 1.27 0.68 0.21 14.29 13.61 13.14 Pedal shaft(left, right), Gear
ช่วยอธิบายเกี่ยวกับ “เตเปอร์” และ “มุมเตเปอร์” ของเกลียวท่อเตเปอร์ PT ของมาตรฐานญี่ปุ่น เกลียวท่อเตเปอร์ R และ Rc ของมาตรฐาน ISO และเกลียวท่อเตเปอร์ NPT, NPTF ของมาตรฐานอเมริกา
องศาเตเปอร์ของ PT, R, Rc และ NPT, NPTF จะเป็น 1/16 หรือ 3/4 นิ้วเตเปอร์ต่อฟุต (62.5 มิลต่อเมตร) วัดด้วยการเปลี่ยนแปลงของเส้นผ่าศูนย์กลางเกลียวท่อตามความยาวเกลียว ในรายละเอียดกรุณาอ้างอิงรูปด้านล่าง
การปรับปรุง
อัตราเตเปอร์ของเกลียวท่อเตเปอร์ = 1/16 องศาเตเปอร์เทียบกับ แกนกลางคิดจาก
tan-1(1/32) = 1.7899˚ หรือ 1˚ 47’ 24”
ดังนั้น เกลียวท่อจะมีองศาเตเปอร์เป็น 3˚ 34’ 47” ไม่ยากใช่ไหมครับ
Taper Pipe Threads : Basic profile of Rc threads.
เนื่องจากเกลียวท่อเตเปอร์ของอเมริกา NPT และ NPTF ก็มีอัตราเตเปอร์ เป็น 1/16 เหมือนกัน ดังนั้น องศาเตเปอร์ก็จะเป็น 3˚ 34’ 47” ด้วยนะ
สรุป ผมเริ่มเข้าใจความหมายของ “อัตราเตเปอร์”, “องศาเอียงของด้านเดียว” และ “องศาเตเปอร์” แล้ว ขอบคุณมากคุณนกฮูก wisdom
ทำไมต๊าปมือต้องมี 3 แบบ
ตัวที่ 1, 2 และ 3 ลุงนกฮูกรวบกวนช่วยบอกถึงความแตกต่างได้ไหมคะ
มันแตกต่างกันตรงที่ความยาวของแชมเฟอร์ครับ
ส่วนของแชมเฟอร์ จะอยู่ตรงข้ามกับก้านโดยอยู่ในส่วนที่เป็นเกลียว ช่วงที่เป็นส่วนเอียง ไปจนปลายต๊าป เกลียวจะถูกตัดโดยส่วนของแชมเฟอร์ในระหว่างการหมุนตัด จำนวน เกลียวในส่วนของแชมเฟอร์ จะแตกต่างกันตามต๊าปตัวที่ 1, 2 และ 3
(จากรูปเป็นต๊าบตัวที่ 2)ต๊าปตัวที่ 1 มีส่วนของแชมเฟอร์ 9 ฟัน
ส่วนที่เล็กที่สุดของแชมเฟอร์ 9 ฟันจะเป็นจุดเริ่มทำเกลียว เมื่อมีการหมุนลงไปในชิ้นงานต๊าปมือ โดยเมื่อหมุนลงไปเรื่อยๆ เกลียวเต็ม 1 เกลียวจะถูกกัดด้วย 9 ฟันของส่วนแชมเฟอร์ ซึ่งจะทำให้เป็นการกัดที่ง่ายที่สุด เนื่องจากการกัดเนื้องานด้วยความหนาน้อยสุด มักถูกใช้เป็นตัวเริ่มต้น หรือใช้ในรูทะลุต๊าปตัวที่ 2 มีส่วนของแชมเฟอร์ 5 ฟัน
ต๊าปตัวที่ 2 ก็มีหลักการทำงานกัดเกลียวเหมือนต๊าปตัวที่ 1 เรายังสามารถใช้ต๊าปตัวที่ 2 เป็นตัวเริ่มการ กัดเกลียวโดยไม่ต้องใช้ต๊าปตัวที่ 1 แต่อาจจะต้องมีตัวช่วยในเรื่องของจุดศูนย์กลางเกลียว ในกรณีรูตัน ต๊าปตัวที่
ฉันสามารถคำนวณความเร็วรอบของต๊าป เมื่อฉันรู้ค่าแนะนำความเร็วตัดได้อย่างไร ?
- ต๊าปเกลียวเลื้อย M12x1.75
- ใช้ความเร็วตัดแนะนำ 7m/min หรือ 23SFM
ทุกความเร็วตัดที่แนะนำจะให้หน่วยเป็น เมตร/นาที (MPM) หรือ ฟุต/นาที
ต๊าปจะมีค่าเส้นผ่าศูนย์กลางต่างๆกันไปตามขนาดเกลียว ดังนั้นความเร็วรอบเดียวกันก็จะมีค่าความเร็ว เมตร/นาที ต่างกัน
ในทางกลับกัน เมื่อใช้ค่าแนะนำ MPM ซึ่งจะแปลงให้อยู่ในรูป RMP ดังนั้นในหลายๆค่าเส้นผ่าศูนย์กลางจะสามารถใช้ MPM ค่าเดียวกันได้
การคำนวณความเร็วรอบ RPM จะต้องใช้การวัดขนาดของเส้นรอบวง เราจะเห็นได้ว่า การวัดเส้นตรงนั้นทำได้ง่ายด้วยไม้บรรทัด แต่การวัดเส้นรอบวงนั้นจะทำได้ยากกว่า
อย่างไรก็ดี เส้นรอบวงสามารถคำนวนได้จากการคูณค่าไพ Pi (¶) หรือค่าคงที่ 3.14 แทนได้
คุณสามารถหาค่าความเร็วรอบต๊าป จากค่าแนะนำความเร็วตัดได้จากสมการง่ายๆ
<Calculate “n” when “Vc” is given>
Vc : ความเร็วตัดต๊าบ (meters per min.)
Dc : เส้นผ่าศูนย์กลางนอกของต๊าบ (mm)
¶ : 3.14
n : ความเร็วรอบ (RPM)เพื่อคำนวณค่าความเร็วรอบของ M12x1.75 ต๊าบเกลียวเลื้อย จากค่าความเร็วตัด
ฉันสามารถคำนวณความเร็วป้อนจากการใช้ต๊าปดังต่อไปนี้ได้อย่างไร
- ต๊าปเกลียวเลื้อย M12x1.75
- ใช้ความเร็วตัดแนะนำ 7m/mm (23 SFM)
ทำได้ง่าย ถ้าเรารู้ค่าพิตช์ และความเร็วรอบแนะนำ
Vf = n x f
vf = ความเร็วป้อนของเครื่องจักรต่อนาที
n = ความเร็วรอบต่อนาที
f = ความเร็วป้อนต่อรอบใช้ค่าความเร็วรอบตัวอย่าง 186 RPM จะสามารถคำนวณค่าความเร็วป้อนได้ดังนี้
ต๊าป M12x1.75
ความเร็วตัด 7เมตร/นาที
ค่าความเร็วป้อนต่อรอบ(f) จะเท่ากับค่าพิตช์ของต๊าบที่เป็น เกลียวปากเดียว ถ้าเป็นเกลียว 2ปาก
(หมุน 1รอบได้ 2เกลียว) f=2 และค่ามากกว่านั้นก็จะเพิ่มไปตามรอบเกลียว
ตัวอย่าง : ความเร็วป้อน (Vc) ของเกลียวปากเดียว M12x1.75 หมุนที่ 186 RPM สามารถหาได้ดังนี้;
Vf = 186 RPM x 1.75มิลลิเมตร (พิตช์) = 325.5 มิลลิเมตร/นาที
325 ÷ 1,000 = .325 MPM
เมื่อคำนวณเกลียวเมตริก ระยะพิตช์จะหาจากระยะห่างจากยอดเกลียวถึงยอดเกลียว
แต่ถ้าคำนวณเกลียวนิ้ว หรือวิทเวอรท์ หรือท่อ ค่าพิตช์จะได้จาก จำนวนเกลียวหารด้วย 1นิ้ว จาก TPI ค่าคำนวณนี้ จะได้ระยะพิตช์เช่นเดียวกัน
เช่น 1/2”-13UNC จะได้ระยะพิตช์
ตอนนี้ทางบริษัททำงานใช้ต๊าปที่มีขนาด M2.6x0.45 หรือเล็กกว่า แต่มักประสบปัญหาที่ ต๊าปมักจะหักอยู่บ่อยๆ จะมีวิธีไหนสามารถปรับปรุง แก้ไขให้ดีกว่านี้ไหม ?
ทำไมไม่ลองเปลี่ยนมาใช้ โรลต๊าป ที่เป็นต๊าปไม่ทำให้เกิดเศษ มันจะช่วยลดปัญหาต๊าปหักได้อย่างดีทีเดียว
ตัวอย่าง ทางบริษัทลูกค้ามักจะประสบปัญหาเมื่อต้องต๊าปงานกับเหล็กแสตนเลส โดยต๊าปขนาดเล็กๆจะหักบ่อย จึงแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาใช้โรลต๊าบเพื่อลดปัญหานี้ดูกัน
[เงื่อนไขการต๊าบเมื่อทางยามาว่าได้รับปัญหานี้มา]
ต๊าป : SP P1 M2x0.4
ชิ้นงาน : SUS304
รูก่อนต๊าป : Ø1.6
อัตราป้อน : Full rigid
หัวจับ : Fixing
ความเร็วต๊าป : 3.2m / min(500min-1)
น้ำมันต๊าป : Water soluble oil (X20)
[ปรับปรุงโดยเปลี่ยนมาใช้ โรลต๊าบ]
ต๊าป : HP+RZ G4 M2x0.4
ชิ้นงาน : SUS304
รูก่อนต๊าป : Ø1.81
อัตราป้อน : Full rigid
หัวจับ : Fixing
ความเร็วต๊าป : 10m / min(1600min-1)
น้ำมันต๊าป : Water soluble oil (X20)
ต๊าปแบบตัดเฉือนที่มีร่องคายเศษแบบ ร่องเลื้อยจะมีปัญหาเรื่องการคายเศษ ทำให้ต๊าปหัก, ในทางตรงกันข้าม ถ้าใช้โรลต๊าปที่ไม่มีเศษ มันจะทำเกลียวที่
เรากำลังจะใช้โรลต๊าปเป็นครั้งแรก รบกวนช่วยแนะนำวิธีการใช้ให้ได้ไหม เพราะเท่าที่ทราบมา มันไม่ง่ายที่จะควบคุมขนาดของรูก่อนต๊าป
การใช้โรลต๊าปอย่างเหมาะสมนั้นไม่ยาก ถ้าคุ้นเคยกับวิธีการเลือกว่าจะใช้โรลต๊าป เพียงถ้าเราทำตามมาตรฐานที่กำหนดให้ก็จะใช้งานได้ดีขึ้น ผมว่ามันมีทางลัดที่จะช่วยได้
• เมื่อคุณมีประสบการณ์ในการใช้โรลต๊าป คุณจะมีวิธีของตัวเองในการใช้ อย่างไรก็ดี ผมจะนำเสนอพื้นฐานการใช้โรลต๊าป
พื้นฐานการเลือกโรลต๊าป
วัสดุชิ้นงานที่จะทำการต๊าป
● ควรตรวจสอบวัสดุชิ้นงานที่เหมาะจะใช้โรลต๊าป โดยโรลต๊าปจะเหมาะกับ อโลหะ เช่น อลูมิเนียม, เหล็กนิ่ม ไม่ใช่เหล็กหล่อหรือเหล็กแข็ง
↓ ขั้นแรกของการเลือกโรลต๊าป
● YAMAWA N+RS ใช้สำหรับอโลหะเช่น อลูมิเนียม และ N+RZ สำหรับเหล็กนิ่ม ถ้าต้องการเพิ่มอายุการใช้งานให้ใช้ HP+RZ
● ผมแนะนำ Plug แชมเฟอร์สำหรับรูทะลุ และ Bottoming แชมเฟอร์สำหรับรูตัน
● ผมแนะนำให้มาใช้คลาสมาตรฐานเกลียวสำหรับการสวมฟิต↓ วิธีการตรวจสอบคลาสเกลียวใน
↓ สำหรับเกลียวแรกให้เตรียมรูก่อนต๊าปที่ใหญ่กว่าคำแนะนำเล็กน้อย
● สำหรับเกลียวแรกให้เตรียมรูก่อนต๊าปที่ใหญ่กว่าคำแนะนำเล็กน้อย
※ ถ้ารูก่อนต๊าปมีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาการขึ้นรูปเกลียวที่เยอะเกินไป และเกิดต๊าปหักได้↓
ต๊าปด้วยโรลต๊าปที่เลือกไว้
● เริ่มต้นการต๊าปด้วยโรลต๊าปครั้งแรก
①เมื่อเช็คด้วย Go ปลั๊กเกจแล้วแน่นให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสสูงขึ้น
②เมื่อเช็ค NoGo ปลั๊กเกจแล้ว ทะลุผ่านให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสต่ำลง
③ ถ้าเช็ค Go และ NoGo แล้ว OK แสดงว่าเราเลือกต๊าปได้ถูกต้องแล้ว
↓ ↓ ↓ ①
เมื่อเช็คด้วย Go ปลั๊กเกจแล้วแน่น ให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสสูงขึ้น②
ถ้าเช็ค NoGo ปลั๊กเกจแล้วทะลุผ่านให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสต่ำลง③
ถ้าเช็ค Go และ NoGo แล้ว OK แสดงว่าเราเลือกต๊าปได้ถูกต้องแล้ว
การอธิบายที่ผ่านมาดูยาก
แต่ทางเรารู้สึกว่าน่าจะทำได้ถ้าทำทีละขั้นตอนที่แนะนำ
ต้องทำได้แน่...
มาเลือกขนาดของรูก่อนต๊าปกันก่อนเถอะ