ประเภทต๊าป : SP-PT1/4-19 (ต๊าปร่องเลื้อยสำหรับเกลียวท่อเตเปอร์) |
[ก่อนปรับปรุง] ชิ้นงาน : SS400 เครื่องจักร : CNC หัวจับ : แบบแข็ง การป้อน : Fully synchronous น้ำมันต๊าป : น้ำหล่อเย็น ความเร็วตัด : 2.5เมตร/นาที (60RPM) |
[หลังปรับปรุง] ชิ้นงาน : SS400 เครื่องจักร : CNC หัวจับ : แบบ tension/compression การป้อน : Fully synchronous น้ำมันต๊าป : น้ำหล่อเย็น ความเร็วตัด : 2.5เมตร/นาที (60RPM) |
|||
เพื่อพัฒนาผิวเกลียวให้ดีขึ้น แนะนำให้ใช้หัวจับต๊าปแบบ tension/compression ด้วยระบบการป้อน แบบ synchronous เพื่อทำให้มีการกัด 1ข้างที่มากขึ้น ทำให้สามารถได้เกลียว และผิวเกลียวที่ดีขึ้น |
||||
ลักษณะผิวของเกลียวใน | ลักษณะผิวของเกลียวใน |
1) เมื่อใช้หัวจับต๊าปแบบแข็ง |
การจุ่มร้อนสังกะสี (กัลวาไนซ์)
เป็นระบบการทำผิวเพื่อป้องกันการกัดกร่อน หรือสนิมของเหล็ก โดยการทำให้แผ่นเหล็ก, เหล็กแท่งบีม, นั่งร้าน และชิ้นส่วนอื่นๆ ถูกชุบโดยสังกะสีที่อุณหภูมิสูง
การใช้งาน
สระว่ายน้ำ, ถนน, สะพาน, วิศวกรรมโยธา, สายไฟฟ้าแรงสูง, สายส่งกำลัง, แท่งเหล็กบีมก่อสร้าง และนั่งร้าน, เสาไฟฟ้าแรงสูงและอื่นๆ
แนวทางการเลือกต๊าป
ต้องตรวจสอบความหนาของการเคลือบ โดยค่าเส้นผ่าศูนย์กลางพิตช์จะใหญ่กว่าขนาดเกลียวปกติ ขึ้นอยู่กับขนาดความหนาของการเคลือบ
(Defined in JISB 0290-5. 1048) (mm)
ค่าเส้นผ่าศูนย์กลางพิตช์จะถูกกำหนดด้านมาตรฐาน JIS |
ตามตารางด้านล่างจะแสดงถึง “ตารางแบบใหม่สำหรับการเลือกต๊าปที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการตัดต่างๆ” |
|
|
“ตารางแบบใหม่สำหรับการเลือกต๊าปที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการตัดต่างๆ”
คุณสามารถอ้างอิงตารางด้านบน สำหรับการเลือกต๊าปที่เหมาะกับเงื่อนไขการตัดของตัวเองได้ และ ยังสามารถเลือกดูตารางอื่นๆเพิ่มเติมได้จากแคตตาล็อก YAMAWA เพื่อเลือกต๊าปให้เหมาะสมกับ“เหล็กกล้า, รูตัน”, “เหล็กสแตนเลส”, “วัสดุที่ไม่ใช้เหล็ก” และ “โรลต๊าป” | |
*กรุณาตรวจสอบแคตตาล็อกสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
【คำแนะนำ】
สมัยก่อนการต๊าปรูทะลุ บนชิ้นงานสแตนเลสมีทางเลือกเดียวคือ SU-PO แต่ปัจจุบันสามารถใช้ SU+SL ในกรณีที่ต้องการความเร็วตัดที่สูงขึ้น โดยควรใช้ SU-PO ที่ความเร็วตัด <5เมตร/นาที หรือใช้ SU+SL ที่ความเร็วตัด 6-18 เมตร/นาที ในกรณีที่ใช้ระบบการป้อน synchronous ให้ใช้ความเร็วตัดที่สูงกว่า 8 เมตร/นาที SU+SL จะมีเฉพาะขนาด M3-M6
|
เกลียวใน M6x1 ที่ถูกต๊าปโดย SU-PO SUS304 ต๊าปที่ความเร็วตัด 7 เมตร/นาที |
เกลียวใน M6x1 ที่ถูกต๊าปโดย SU+SL SUS304 ต๊าปที่ความเร็วตัด 15 เมตร/นาที |
SU+SL จะเหมาะกับงานรูทะลุ ที่ใช้กับชิ้นงานที่แข็ง และเหนียว เช่น เหล็กสแตนเลส, เหล็กโครม, เหล็กโมลิดินัม | |
ฉันมักมีปัญหาเศษพันกัน เมื่อใช้ต๊าปเกลียวเลื้อย (SP) กับงานรูทะลุ
รบกวนช่วยแนะนำวิธีแก้ปัญหาด้วยค่ะ
ง่ายมากครับ...
คุณสามารถแก้ปัญหาโดยใช้ต๊าปรูทะลุ (PO) สำหรับงานรูทะลุ
[คำแนะนำ]
ต๊าปเกลียวเลื้อย (SP) มีร่องคายเศษแบบร่องเลื้อยจึงจะขับเศษให้ถอยหลังจากรูทางก้านต๊าปคล้ายดอกสว่าน
ต๊าปเกลียวเลื้อย (SP) จะเหมาะกับรูตัน แต่มักจะเกิดปัญหาเศษพันกัน เมื่อใช้กับวัสดุเหนียว และเป็นรูทะลุ
ต๊าปรูทะลุ (PO) นำเสนอข้อดี เมื่อใช้กับรูทะลุ เพราะต๊าปจะขับเศษออกไปทางด้านหน้าทางปลายแชมเฟอร์ต๊าป โดยต๊าปรูทะลุจะถูกออกแบบให้สามารถขับเศษ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และลดปัญหาเศษพันกัน หรือเศษติดกัน
ขับเศษถอยหลัง
ลักษณะของการขับเศษ เมื่อใช้ต๊าปเกลียวเลื้อย
ควรเลือกต๊าปรูทะลุ (PO)
เพื่อใช้กับงานรูทะลุ
ขับเศษไปข้างหน้า
ลักษณะการขับเศษ เมื่อใช้ต๊าปรูทะลุ (PO)
เราสามารถเลือกต๊าบที่ดีที่สุด ให้เหมาะสมกับเงื่อนไขการต๊าบ และวัสดุชิ้นงานจากรุ่นทั้งหมดด้านล่างได้
*ต๊าบรูทะลุ (PO) สำหรับงานรูทะลุ
PO(N-PO)
LS-PO(LS-N-PO), long shanked
PO-V(N-PO-V),titanium coated
AU+SL, titanium
อะไรคือ ต๊าปเกลียวท่อ PT 15A ???
“15A” เป็นขนาดของท่อเหล็ก โดยเราสามารถตรวจสอบขนาดของ
เกลียวท่อจากการตรวจสอบตารางด้านล่างอิงกับขนาดท่อ
ขนาดของเกลียวเมื่อใช้กับท่อเหล็ก 15A คือ PT1/2-14 (Rc1/2-14)
[คำแนะนำ]
ท่อจะทำด้วยชนิดของวัสดุแตกต่างกันมากมาย เช่น เหล็กชุบกัลวาไนซ์, เหล็กทั่วไป, ทองแดง, เหล็กหล่อ, คอนกรีต และพลาสติก เช่น ABS, PVC, CPVC, โพลีเอทิลีน, โพลียูทีลีน และอื่นๆ
ท่อเวลาเรียกจะถูกกำหนดด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง DN ซึ่งขนาดจริงไม่ได้สะท้อนชื่อเรียกเลย เช่น 2” A ท่อเหล็กชุบกัลวาไนซ์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางด้านใน 60.5 มิลลิเมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอก
66.7 มิลลิเมตรตามตารางด้านล่าง ขนาดของท่อเหล็กจะถูกแสดงด้วยระบบ A ที่เรียกตามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง และระบบ B ที่เรียกตามขนาดเกลียวท่อ ส่วนระบบ “B” จะเข้าใจได้ง่ายกว่าที่มีขนาดเกลียวท่อ ส่วนระบบ “A” จะเรียก
ตามขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางนอกท่อขนาด 15A จะถูกแสดงในคอลัมน์ A ตามตารางด้านล่าง และจะมีขนาดเท่ากับเกลียวท่อที่ถูกแสดงใน คอลัมน์ B
โดยมีขนาดเกลียวเป็น PT1/2-14 (Rc1/2-14)
โปรดดูตารางเปรียบเทียบดังต่อไปนี้
ฉันสงสัยว่า ฉันเห็นสัญลักษณ์ 2A หรือ 2B ในแบบงานที่มีขนาดของเกลียว 3/8”-16UNC 2A และ 3/8”-16UNC 2B มันมีความหมายว่าอย่างไร?
สัญลักษณ์พวกนั้นหมายถึง คลาสของการสวมฟิตสำหรับเกลียวนิ้ว ระบบ ยูนิไฟน์ คลาสของยูนิไฟน์จะแสดงในรูปของตัวหนังสือ
และเลขเพื่อบอกค่าเผื่อของเกลียวที่ใช้ในการสวมฟิต
[คำแนะนำ]
ระบบเกลียวนิ้วยูนิไฟน์ แบ่งเป็น 2 ประเภท เกลียวนอกและเกลียวในมีทั้งหมดอย่างละ 3 คลาส
คลาส 1A, 2A, 3A สำหรับเกลียวนอก และคลาส 1B, 2B, 3B สำหรับเกลียวใน
คลาส 1A และ 1B ของเกลียวยูนิไฟน์ จะใช้ในบางโอกาส เช่น ต้องการการประกอบที่เร็ว และง่าย หรือยอมให้มีค่าเผื่อที่กว้างเพื่อสวมง่าย หรือแม้แต่ยอมให้เกลียวไม่ค่อยดี หรือสกปรกเล็กน้อย
คลาส 2A และ 2B ของเกลียวยูนิไฟน์ จะใช้กันโดยทั่วไปในหลากหลายประเภทชิ้นงาน รวมถึง น๊อต, สกรู และของที่คล้ายกับสกรูน็อต
คลาส 3A และ 3B ของเกลียวยูนิไฟน์ จะใช้ในอุตสาหกรรมการบิน, เครื่องบิน หรือการแพทย์, รถแข่ง ที่ต้องการค่าเผื่อสวมฟิตที่แคบขึ้นกว่า 2A, 2B
เกลียว 3/8”-16UNC 2B จะหมายถึง เส้นผ่าศูนย์กลางเกลียวขนาด 3/8” เกลียวหยาบ คลาส 2B ในกรณีที่เห็น
ฉันอยากทราบถึงความแตกต่างของดอกนำศูนย์ CE-S และ CD-S ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรค่ะ
ดอกนำศูนย์รุ่น CE-S มีร่องคายเศษเป็นมุมสูง ที่เหมาะกับการกัดงานเหล็กนิ่ม เหนียว
ดอกนำศูนย์รุ่น CD-S มีร่องคายเศษเป็นมุมต่ำ จะแนะนำให้ใช้กับวัสดุงานที่แข็งขึ้นมา
เพราะรูปร่างคมตัด สามารถทนแรงตัดที่สูงขึ้นได้ครับ
【คำแนะนำ】
ความแตกต่างระหว่าง CE-S และ CD-S จะอยู่ที่รูปร่างของร่องคายเศษ และคุณลักษณะการใช้งานจากการออกแบบแต่ละคมตัด
CE-S ร่องคายเศษมุมสูง
CD-S ร่องคายเศษมุมต่ำ
ดอกนำศูนย์ CE-S เหมาะกับวัสดุนิ่มเหนียว ที่ขับเศษเป็นรูปร่างหมุนเกลียว
ดอกนำศูนย์ CD-S จะเหมาะกับวัสดุที่แข็งขึ้นมา และขับเศษที่ไม่เป็นรูปร่างเกลียว
การเข้าใจในความแตกต่างระหว่าง CE-S และ CD-S จะช่วยให้เราเลือกดอกนำศูนย์ได้เหมาะสมกับชิ้นงานแต่ละชนิดมากขึ้น
CE-S แนะนำให้ใช้กับเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ, เหล็กสแตนเลส, ไททาเนียม, อลูมิเนียม และทองแดง เป็นต้น
CD-S แนะนำให้ใช้กับเหล็กกล้าคาร์บอนสูง, เหล็กกล้าผสม, เหล็กเครื่องมือ, เหล็กหล่อ, เหล็กผสมนิเกิล และทองเหลือง เป็นต้น
ในการต๊าบด้วยต๊าปคาร์ไบด์ มีข้อควรระวังอะไรบ้างคะ?
ในการจะใช้ต๊าปคาร์ไบด์ให้เหมาะสม ต้องควรระวังในการเลือกใช้วัสดุชิ้นงานอะไร โดยปกติต๊าปคาร์ไบด์มักใช้กับ เหล็กหล่อ หรืออลูมิเนียมฉีด
แต่ในทางกลับกันต๊าปคาร์ไบด์จะไม่เหมาะสมกับเหล็กกล้า หรือสแตนเลส และควรระมัดระวังเมื่อใช้ต๊าปคาร์ไบด์ กับเครื่องจักรที่ไม่ใช่เครื่อง CNC
หรือเครื่องจักรที่ไม่แข็งแรง เพราะจะเกิดปัญหาเกลียวล้ม และแตกหักได้
【คำแนะนำ】
ลักษณะของเศษ
วัสดุชิ้นงานที่เหมาะสม
ต๊าปคาร์ไบด์จะเหมาะสมกับงานประเภทเหล็กหล่อ
และอลูมิเนียมฉีด เนื่องจากเศษที่ขับออกมานั้น เป็น
แบบเล็กละเอียด (ตามรูปด้านข้าง)
ปัจจุบันต๊าปคาร์ไบด์นั้นยังถูกใช้ในการกัดวัสดุชุบแข็ง
ที่มีความแข็งถึง 60HRC หรือมากกว่านั้นเมื่อเปรียบเทียบกับต๊าปไฮสปีด ต๊าบคาร์ไบด์จะมี
ความเหนียวน้อยกว่าซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาเกลียวล้ม
และเกลียวแตกได้
ดังนั้นจึงต้องเลือกวัสดุชิ้นงานด้วยความระมัดระวัง
ในกรณีที่ใช้ต๊าบคาร์ไบด์ตัวอย่างต๊าบคาร์ไบด์
• N-CT FC : สำหรับเหล็กหล่อ
• N-CT LA : สำหรับอลูมิเนียม
• EH-CT : สำหรับเหล็กชุบแข็ง
ช่วยอธิบายความหมายของสัญลักษณ์ UNC และ UNF ที่ฉันสามารถเห็นได้จากแบบร่างของชิ้นงานด้วยค่ะ
ฉันต้องทำชิ้นงานที่มีขนาดเกลียว
1/4”-20UNC และ 1/4”-28UNF
UNC และ UNF เป็นสัญลักษณ์ของระบบเกลียวยูนิไฟน์ โดยระบบเกลียวยูนิไฟน์จะถูกกำหนดร่วมกันระหว่าง สหรัฐอเมริกา, หมู่เกาะบริเทน และแคนาดาในปี 1949 เพื่อให้สามารถใช้เกลียวร่วมกันได้ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสเปค บางอย่างเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
ระบบเกลียวยูนิไฟน์ แบ่งเป็นเกลียวหยาบ, เกลียวละเอียด และเกลียวละเอียดมาก เหมือนของระบบเกลียวเมตริกUNC : คือสัญลักษณ์ของเกลียวหยาบ
UNF : คือสัญลักษณ์ของเกลียวละเอียด
UNEF : คือสัญลักษณ์ของเกลียวละเอียดมาก
UNS : คือสัญลักษณ์ของเกลียวยูนิไฟน์พิเศษ
ถ้ามีการใช้ระบบเกลียวยูนิไฟน์ จะสามารถบอกค่าเส้นผ่าศูนย์กลางเกลียว, จำนวนเกลียวต่อความยาว 1 นิ้ว (TPI) และสามารถระบุเกลียวหยาบ หรือเกลียวละเอียดได้ง่าย เช่น 1/4”-20UNC มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1/4” แล มี 20 เกลียวต่อความยาว 1นิ้ว (TPI) และ UNC แสดงถึงเกลียวหยาบ แต่ถ้าเป็นระบบเกลียวเมตริก จะบอกเฉพาะค่าเส้นผ่าศูนย์กลางเกลียว เช่น