ช่วยอธิบายเกี่ยวกับ “เตเปอร์” และ “มุมเตเปอร์” ของเกลียวท่อเตเปอร์ PT ของมาตรฐานญี่ปุ่น เกลียวท่อเตเปอร์ R และ Rc ของมาตรฐาน ISO และเกลียวท่อเตเปอร์ NPT, NPTF ของมาตรฐานอเมริกา
องศาเตเปอร์ของ PT, R, Rc และ NPT, NPTF จะเป็น 1/16 หรือ 3/4 นิ้วเตเปอร์ต่อฟุต (62.5 มิลต่อเมตร) วัดด้วยการเปลี่ยนแปลงของเส้นผ่าศูนย์กลางเกลียวท่อตามความยาวเกลียว ในรายละเอียดกรุณาอ้างอิงรูปด้านล่าง
การปรับปรุง
อัตราเตเปอร์ของเกลียวท่อเตเปอร์ = 1/16 องศาเตเปอร์เทียบกับ แกนกลางคิดจาก
tan-1(1/32) = 1.7899˚ หรือ 1˚ 47’ 24”
ดังนั้น เกลียวท่อจะมีองศาเตเปอร์เป็น 3˚ 34’ 47” ไม่ยากใช่ไหมครับ
Taper Pipe Threads : Basic profile of Rc threads.
เนื่องจากเกลียวท่อเตเปอร์ของอเมริกา NPT และ NPTF ก็มีอัตราเตเปอร์ เป็น 1/16 เหมือนกัน ดังนั้น องศาเตเปอร์ก็จะเป็น 3˚ 34’ 47” ด้วยนะ
สรุป ผมเริ่มเข้าใจความหมายของ “อัตราเตเปอร์”, “องศาเอียงของด้านเดียว” และ “องศาเตเปอร์” แล้ว ขอบคุณมากคุณนกฮูก wisdom
ทำไมต๊าปมือต้องมี 3 แบบ
ตัวที่ 1, 2 และ 3 ลุงนกฮูกรวบกวนช่วยบอกถึงความแตกต่างได้ไหมคะ
มันแตกต่างกันตรงที่ความยาวของแชมเฟอร์ครับ
ส่วนของแชมเฟอร์ จะอยู่ตรงข้ามกับก้านโดยอยู่ในส่วนที่เป็นเกลียว ช่วงที่เป็นส่วนเอียง ไปจนปลายต๊าป เกลียวจะถูกตัดโดยส่วนของแชมเฟอร์ในระหว่างการหมุนตัด จำนวน เกลียวในส่วนของแชมเฟอร์ จะแตกต่างกันตามต๊าปตัวที่ 1, 2 และ 3
(จากรูปเป็นต๊าบตัวที่ 2)ต๊าปตัวที่ 1 มีส่วนของแชมเฟอร์ 9 ฟัน
ส่วนที่เล็กที่สุดของแชมเฟอร์ 9 ฟันจะเป็นจุดเริ่มทำเกลียว เมื่อมีการหมุนลงไปในชิ้นงานต๊าปมือ โดยเมื่อหมุนลงไปเรื่อยๆ เกลียวเต็ม 1 เกลียวจะถูกกัดด้วย 9 ฟันของส่วนแชมเฟอร์ ซึ่งจะทำให้เป็นการกัดที่ง่ายที่สุด เนื่องจากการกัดเนื้องานด้วยความหนาน้อยสุด มักถูกใช้เป็นตัวเริ่มต้น หรือใช้ในรูทะลุต๊าปตัวที่ 2 มีส่วนของแชมเฟอร์ 5 ฟัน
ต๊าปตัวที่ 2 ก็มีหลักการทำงานกัดเกลียวเหมือนต๊าปตัวที่ 1 เรายังสามารถใช้ต๊าปตัวที่ 2 เป็นตัวเริ่มการ กัดเกลียวโดยไม่ต้องใช้ต๊าปตัวที่ 1 แต่อาจจะต้องมีตัวช่วยในเรื่องของจุดศูนย์กลางเกลียว ในกรณีรูตัน ต๊าปตัวที่
ตอนนี้ทางบริษัททำงานใช้ต๊าปที่มีขนาด M2.6x0.45 หรือเล็กกว่า แต่มักประสบปัญหาที่ ต๊าปมักจะหักอยู่บ่อยๆ จะมีวิธีไหนสามารถปรับปรุง แก้ไขให้ดีกว่านี้ไหม ?
ทำไมไม่ลองเปลี่ยนมาใช้ โรลต๊าป ที่เป็นต๊าปไม่ทำให้เกิดเศษ มันจะช่วยลดปัญหาต๊าปหักได้อย่างดีทีเดียว
ตัวอย่าง ทางบริษัทลูกค้ามักจะประสบปัญหาเมื่อต้องต๊าปงานกับเหล็กแสตนเลส โดยต๊าปขนาดเล็กๆจะหักบ่อย จึงแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาใช้โรลต๊าบเพื่อลดปัญหานี้ดูกัน
[เงื่อนไขการต๊าบเมื่อทางยามาว่าได้รับปัญหานี้มา]
ต๊าป : SP P1 M2x0.4
ชิ้นงาน : SUS304
รูก่อนต๊าป : Ø1.6
อัตราป้อน : Full rigid
หัวจับ : Fixing
ความเร็วต๊าป : 3.2m / min(500min-1)
น้ำมันต๊าป : Water soluble oil (X20)
[ปรับปรุงโดยเปลี่ยนมาใช้ โรลต๊าบ]
ต๊าป : HP+RZ G4 M2x0.4
ชิ้นงาน : SUS304
รูก่อนต๊าป : Ø1.81
อัตราป้อน : Full rigid
หัวจับ : Fixing
ความเร็วต๊าป : 10m / min(1600min-1)
น้ำมันต๊าป : Water soluble oil (X20)
ต๊าปแบบตัดเฉือนที่มีร่องคายเศษแบบ ร่องเลื้อยจะมีปัญหาเรื่องการคายเศษ ทำให้ต๊าปหัก, ในทางตรงกันข้าม ถ้าใช้โรลต๊าปที่ไม่มีเศษ มันจะทำเกลียวที่
เรากำลังจะใช้โรลต๊าปเป็นครั้งแรก รบกวนช่วยแนะนำวิธีการใช้ให้ได้ไหม เพราะเท่าที่ทราบมา มันไม่ง่ายที่จะควบคุมขนาดของรูก่อนต๊าป
การใช้โรลต๊าปอย่างเหมาะสมนั้นไม่ยาก ถ้าคุ้นเคยกับวิธีการเลือกว่าจะใช้โรลต๊าป เพียงถ้าเราทำตามมาตรฐานที่กำหนดให้ก็จะใช้งานได้ดีขึ้น ผมว่ามันมีทางลัดที่จะช่วยได้
• เมื่อคุณมีประสบการณ์ในการใช้โรลต๊าป คุณจะมีวิธีของตัวเองในการใช้ อย่างไรก็ดี ผมจะนำเสนอพื้นฐานการใช้โรลต๊าป
พื้นฐานการเลือกโรลต๊าป
วัสดุชิ้นงานที่จะทำการต๊าป
● ควรตรวจสอบวัสดุชิ้นงานที่เหมาะจะใช้โรลต๊าป โดยโรลต๊าปจะเหมาะกับ อโลหะ เช่น อลูมิเนียม, เหล็กนิ่ม ไม่ใช่เหล็กหล่อหรือเหล็กแข็ง
↓ ขั้นแรกของการเลือกโรลต๊าป
● YAMAWA N+RS ใช้สำหรับอโลหะเช่น อลูมิเนียม และ N+RZ สำหรับเหล็กนิ่ม ถ้าต้องการเพิ่มอายุการใช้งานให้ใช้ HP+RZ
● ผมแนะนำ Plug แชมเฟอร์สำหรับรูทะลุ และ Bottoming แชมเฟอร์สำหรับรูตัน
● ผมแนะนำให้มาใช้คลาสมาตรฐานเกลียวสำหรับการสวมฟิต↓ วิธีการตรวจสอบคลาสเกลียวใน
↓ สำหรับเกลียวแรกให้เตรียมรูก่อนต๊าปที่ใหญ่กว่าคำแนะนำเล็กน้อย
● สำหรับเกลียวแรกให้เตรียมรูก่อนต๊าปที่ใหญ่กว่าคำแนะนำเล็กน้อย
※ ถ้ารูก่อนต๊าปมีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาการขึ้นรูปเกลียวที่เยอะเกินไป และเกิดต๊าปหักได้↓
ต๊าปด้วยโรลต๊าปที่เลือกไว้
● เริ่มต้นการต๊าปด้วยโรลต๊าปครั้งแรก
①เมื่อเช็คด้วย Go ปลั๊กเกจแล้วแน่นให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสสูงขึ้น
②เมื่อเช็ค NoGo ปลั๊กเกจแล้ว ทะลุผ่านให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสต่ำลง
③ ถ้าเช็ค Go และ NoGo แล้ว OK แสดงว่าเราเลือกต๊าปได้ถูกต้องแล้ว
↓ ↓ ↓ ①
เมื่อเช็คด้วย Go ปลั๊กเกจแล้วแน่น ให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสสูงขึ้น②
ถ้าเช็ค NoGo ปลั๊กเกจแล้วทะลุผ่านให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสต่ำลง③
ถ้าเช็ค Go และ NoGo แล้ว OK แสดงว่าเราเลือกต๊าปได้ถูกต้องแล้ว
การอธิบายที่ผ่านมาดูยาก
แต่ทางเรารู้สึกว่าน่าจะทำได้ถ้าทำทีละขั้นตอนที่แนะนำ
ต้องทำได้แน่...
มาเลือกขนาดของรูก่อนต๊าปกันก่อนเถอะ
ตอนนี้ฉันใช้ต๊าปเกลียวเลื้อยกับหลายๆวัสดุชิ้นงานอยู่ ฉันมักจะมีปัญหาต๊าปหัก, ต๊าปปลายแตก, เศษเชื่อมติดต๊าป จะมีวิธีแนะนำเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้บ้างไหม?
วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่งคือการเจาะรูก่อนต๊าปให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือใหญ่สุด ตามค่าที่รับได้ คุณก็จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ครับ
รูก่อนต๊าปมักจะไม่ค่อยได้รับการใส่ใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา บางครั้งการเข้าใจเกี่ยวกับขนาดของรูก่อนต๊าปจะช่วยแก้ปัญหาที่มีทั้งหมดได้
ปกติแล้ว รูก่อนต๊าปจะมีขนาดเดียว
กำหนดไว้สำหรับต๊าปแต่ละขนาดหรือเปล่า?
เช่น M8x1.25 ใช้ได้เฉพาะรู 6.8 มม. หรือเปล่านะ
ไม่ได้มีการกำหนดว่าขนาดรูก่อนเจาะของ M8x1.25 ต้องเป็น 6.8 มม.
ในมาตรฐาน ISO 6H หรือ JIS คลาส2
ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางในเล็ก มีขนาด ได้ตั้งแต่ 6.647 - 6.912 มม.
เมื่อเกิดปัญหาในการ ต๊าปควรขยายขนาดรูก่อนต๊าป ให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่ จะทำได้
ในการทำ M8x1.25 เมื่อปรับขนาดรูก่อนต๊าป จาก 6.8 มม. เป็น 6.9 มม.
ปริมาตรของเศษลดลง 15% หรือเป็นผลให้แรงกระทำต่อต๊าปลดลงเช่นกัน 13%
ดังนั้นรูก่อนต๊าปยิ่งใหญ่ ก็จะยิ่งลดปัญหาเรื่องต๊าปหัก