ฉันสามารถคำนวณความเร็วรอบของต๊าป เมื่อฉันรู้ค่าแนะนำความเร็วตัดได้อย่างไร ?
- ต๊าปเกลียวเลื้อย M12x1.75
- ใช้ความเร็วตัดแนะนำ 7m/min หรือ 23SFM
ทุกความเร็วตัดที่แนะนำจะให้หน่วยเป็น เมตร/นาที (MPM) หรือ ฟุต/นาที
ต๊าปจะมีค่าเส้นผ่าศูนย์กลางต่างๆกันไปตามขนาดเกลียว ดังนั้นความเร็วรอบเดียวกันก็จะมีค่าความเร็ว เมตร/นาที ต่างกัน
ในทางกลับกัน เมื่อใช้ค่าแนะนำ MPM ซึ่งจะแปลงให้อยู่ในรูป RMP ดังนั้นในหลายๆค่าเส้นผ่าศูนย์กลางจะสามารถใช้ MPM ค่าเดียวกันได้
การคำนวณความเร็วรอบ RPM จะต้องใช้การวัดขนาดของเส้นรอบวง เราจะเห็นได้ว่า การวัดเส้นตรงนั้นทำได้ง่ายด้วยไม้บรรทัด แต่การวัดเส้นรอบวงนั้นจะทำได้ยากกว่า
อย่างไรก็ดี เส้นรอบวงสามารถคำนวนได้จากการคูณค่าไพ Pi (¶) หรือค่าคงที่ 3.14 แทนได้
คุณสามารถหาค่าความเร็วรอบต๊าป จากค่าแนะนำความเร็วตัดได้จากสมการง่ายๆ
<Calculate “n” when “Vc” is given>
Vc : ความเร็วตัดต๊าบ (meters per min.)
Dc : เส้นผ่าศูนย์กลางนอกของต๊าบ (mm)
¶ : 3.14
n : ความเร็วรอบ (RPM)เพื่อคำนวณค่าความเร็วรอบของ M12x1.75 ต๊าบเกลียวเลื้อย จากค่าความเร็วตัด
ฉันสามารถคำนวณความเร็วป้อนจากการใช้ต๊าปดังต่อไปนี้ได้อย่างไร
- ต๊าปเกลียวเลื้อย M12x1.75
- ใช้ความเร็วตัดแนะนำ 7m/mm (23 SFM)
ทำได้ง่าย ถ้าเรารู้ค่าพิตช์ และความเร็วรอบแนะนำ
Vf = n x f
vf = ความเร็วป้อนของเครื่องจักรต่อนาที
n = ความเร็วรอบต่อนาที
f = ความเร็วป้อนต่อรอบใช้ค่าความเร็วรอบตัวอย่าง 186 RPM จะสามารถคำนวณค่าความเร็วป้อนได้ดังนี้
ต๊าป M12x1.75
ความเร็วตัด 7เมตร/นาที
ค่าความเร็วป้อนต่อรอบ(f) จะเท่ากับค่าพิตช์ของต๊าบที่เป็น เกลียวปากเดียว ถ้าเป็นเกลียว 2ปาก
(หมุน 1รอบได้ 2เกลียว) f=2 และค่ามากกว่านั้นก็จะเพิ่มไปตามรอบเกลียว
ตัวอย่าง : ความเร็วป้อน (Vc) ของเกลียวปากเดียว M12x1.75 หมุนที่ 186 RPM สามารถหาได้ดังนี้;
Vf = 186 RPM x 1.75มิลลิเมตร (พิตช์) = 325.5 มิลลิเมตร/นาที
325 ÷ 1,000 = .325 MPM
เมื่อคำนวณเกลียวเมตริก ระยะพิตช์จะหาจากระยะห่างจากยอดเกลียวถึงยอดเกลียว
แต่ถ้าคำนวณเกลียวนิ้ว หรือวิทเวอรท์ หรือท่อ ค่าพิตช์จะได้จาก จำนวนเกลียวหารด้วย 1นิ้ว จาก TPI ค่าคำนวณนี้ จะได้ระยะพิตช์เช่นเดียวกัน
เช่น 1/2”-13UNC จะได้ระยะพิตช์
ตอนนี้ทางบริษัททำงานใช้ต๊าปที่มีขนาด M2.6x0.45 หรือเล็กกว่า แต่มักประสบปัญหาที่ ต๊าปมักจะหักอยู่บ่อยๆ จะมีวิธีไหนสามารถปรับปรุง แก้ไขให้ดีกว่านี้ไหม ?
ทำไมไม่ลองเปลี่ยนมาใช้ โรลต๊าป ที่เป็นต๊าปไม่ทำให้เกิดเศษ มันจะช่วยลดปัญหาต๊าปหักได้อย่างดีทีเดียว
ตัวอย่าง ทางบริษัทลูกค้ามักจะประสบปัญหาเมื่อต้องต๊าปงานกับเหล็กแสตนเลส โดยต๊าปขนาดเล็กๆจะหักบ่อย จึงแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาใช้โรลต๊าบเพื่อลดปัญหานี้ดูกัน
[เงื่อนไขการต๊าบเมื่อทางยามาว่าได้รับปัญหานี้มา]
ต๊าป : SP P1 M2x0.4
ชิ้นงาน : SUS304
รูก่อนต๊าป : Ø1.6
อัตราป้อน : Full rigid
หัวจับ : Fixing
ความเร็วต๊าป : 3.2m / min(500min-1)
น้ำมันต๊าป : Water soluble oil (X20)
[ปรับปรุงโดยเปลี่ยนมาใช้ โรลต๊าบ]
ต๊าป : HP+RZ G4 M2x0.4
ชิ้นงาน : SUS304
รูก่อนต๊าป : Ø1.81
อัตราป้อน : Full rigid
หัวจับ : Fixing
ความเร็วต๊าป : 10m / min(1600min-1)
น้ำมันต๊าป : Water soluble oil (X20)
ต๊าปแบบตัดเฉือนที่มีร่องคายเศษแบบ ร่องเลื้อยจะมีปัญหาเรื่องการคายเศษ ทำให้ต๊าปหัก, ในทางตรงกันข้าม ถ้าใช้โรลต๊าปที่ไม่มีเศษ มันจะทำเกลียวที่
เรากำลังจะใช้โรลต๊าปเป็นครั้งแรก รบกวนช่วยแนะนำวิธีการใช้ให้ได้ไหม เพราะเท่าที่ทราบมา มันไม่ง่ายที่จะควบคุมขนาดของรูก่อนต๊าป
การใช้โรลต๊าปอย่างเหมาะสมนั้นไม่ยาก ถ้าคุ้นเคยกับวิธีการเลือกว่าจะใช้โรลต๊าป เพียงถ้าเราทำตามมาตรฐานที่กำหนดให้ก็จะใช้งานได้ดีขึ้น ผมว่ามันมีทางลัดที่จะช่วยได้
• เมื่อคุณมีประสบการณ์ในการใช้โรลต๊าป คุณจะมีวิธีของตัวเองในการใช้ อย่างไรก็ดี ผมจะนำเสนอพื้นฐานการใช้โรลต๊าป
พื้นฐานการเลือกโรลต๊าป
วัสดุชิ้นงานที่จะทำการต๊าป
● ควรตรวจสอบวัสดุชิ้นงานที่เหมาะจะใช้โรลต๊าป โดยโรลต๊าปจะเหมาะกับ อโลหะ เช่น อลูมิเนียม, เหล็กนิ่ม ไม่ใช่เหล็กหล่อหรือเหล็กแข็ง
↓ ขั้นแรกของการเลือกโรลต๊าป
● YAMAWA N+RS ใช้สำหรับอโลหะเช่น อลูมิเนียม และ N+RZ สำหรับเหล็กนิ่ม ถ้าต้องการเพิ่มอายุการใช้งานให้ใช้ HP+RZ
● ผมแนะนำ Plug แชมเฟอร์สำหรับรูทะลุ และ Bottoming แชมเฟอร์สำหรับรูตัน
● ผมแนะนำให้มาใช้คลาสมาตรฐานเกลียวสำหรับการสวมฟิต↓ วิธีการตรวจสอบคลาสเกลียวใน
↓ สำหรับเกลียวแรกให้เตรียมรูก่อนต๊าปที่ใหญ่กว่าคำแนะนำเล็กน้อย
● สำหรับเกลียวแรกให้เตรียมรูก่อนต๊าปที่ใหญ่กว่าคำแนะนำเล็กน้อย
※ ถ้ารูก่อนต๊าปมีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาการขึ้นรูปเกลียวที่เยอะเกินไป และเกิดต๊าปหักได้↓
ต๊าปด้วยโรลต๊าปที่เลือกไว้
● เริ่มต้นการต๊าปด้วยโรลต๊าปครั้งแรก
①เมื่อเช็คด้วย Go ปลั๊กเกจแล้วแน่นให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสสูงขึ้น
②เมื่อเช็ค NoGo ปลั๊กเกจแล้ว ทะลุผ่านให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสต่ำลง
③ ถ้าเช็ค Go และ NoGo แล้ว OK แสดงว่าเราเลือกต๊าปได้ถูกต้องแล้ว
↓ ↓ ↓ ①
เมื่อเช็คด้วย Go ปลั๊กเกจแล้วแน่น ให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสสูงขึ้น②
ถ้าเช็ค NoGo ปลั๊กเกจแล้วทะลุผ่านให้ใช้ต๊าบที่มีคลาสต่ำลง③
ถ้าเช็ค Go และ NoGo แล้ว OK แสดงว่าเราเลือกต๊าปได้ถูกต้องแล้ว
การอธิบายที่ผ่านมาดูยาก
แต่ทางเรารู้สึกว่าน่าจะทำได้ถ้าทำทีละขั้นตอนที่แนะนำ
ต้องทำได้แน่...
มาเลือกขนาดของรูก่อนต๊าปกันก่อนเถอะ
ตอนนี้ฉันใช้ต๊าปเกลียวเลื้อยกับหลายๆวัสดุชิ้นงานอยู่ ฉันมักจะมีปัญหาต๊าปหัก, ต๊าปปลายแตก, เศษเชื่อมติดต๊าป จะมีวิธีแนะนำเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้บ้างไหม?
วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างหนึ่งคือการเจาะรูก่อนต๊าปให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือใหญ่สุด ตามค่าที่รับได้ คุณก็จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ครับ
รูก่อนต๊าปมักจะไม่ค่อยได้รับการใส่ใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา บางครั้งการเข้าใจเกี่ยวกับขนาดของรูก่อนต๊าปจะช่วยแก้ปัญหาที่มีทั้งหมดได้
ปกติแล้ว รูก่อนต๊าปจะมีขนาดเดียว
กำหนดไว้สำหรับต๊าปแต่ละขนาดหรือเปล่า?
เช่น M8x1.25 ใช้ได้เฉพาะรู 6.8 มม. หรือเปล่านะ
ไม่ได้มีการกำหนดว่าขนาดรูก่อนเจาะของ M8x1.25 ต้องเป็น 6.8 มม.
ในมาตรฐาน ISO 6H หรือ JIS คลาส2
ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางในเล็ก มีขนาด ได้ตั้งแต่ 6.647 - 6.912 มม.
เมื่อเกิดปัญหาในการ ต๊าปควรขยายขนาดรูก่อนต๊าป ให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่ จะทำได้
ในการทำ M8x1.25 เมื่อปรับขนาดรูก่อนต๊าป จาก 6.8 มม. เป็น 6.9 มม.
ปริมาตรของเศษลดลง 15% หรือเป็นผลให้แรงกระทำต่อต๊าปลดลงเช่นกัน 13%
ดังนั้นรูก่อนต๊าปยิ่งใหญ่ ก็จะยิ่งลดปัญหาเรื่องต๊าปหัก
ฉันกำลังต๊าปท่อด้วย ต๊าป Rc(PT) กับเครื่องแมชชีนเซ้นเตอร์ ฉันค่อนข้างกังวล ในเรื่องของผิวเกลียวที่ไม่สวย และเกิดการสั่น มีใครสามารถแนะนำวิธีการแก้ปัญหาได้บ้างนะ
เพื่อลดผลของการเกิดผิวเกลียวที่ไม่สวย และเกิดการสั่น ควรลดความเร็วตัดในการต๊าป หรือลดรอบ (RPM) ของเครื่องจักรลง
วิธีการปรับปรุง :
การอธิบายผิวเกลียวที่ไม่สวย และเกิดการสั่นขึ้น มักจะเกิดจากต๊าปเกลียวท่อเตเปอร์ ด้วยต๊าปเตเปอร์บนเครื่องจักรแมชชีนเซ็นเตอร์
ต๊าปปัจจุบัน :
ต๊าปท่อเตเปอร์ Rc1/4-19
เงื่อนไขการตัดปัจจุบัน
วัสดุ : SS400 (A36/A283C)
เครื่องจักร : Machining center
วิธีการป้อน : Full rigid type feed
น้ำมันหล่อลื่น : Water soluble type
ความเร็วตัด : 7m/min. (196RPM or 23SFM)
ผิวหน้าเกลียวของเกลียวใน หลังจากผ่านการทำเกลียว
การต๊าปหลังจากปรับปรุงเงื่อนไขการตัด
วัสดุ : SS400 (A36/A283C)
เครื่องจักร : Machining center
วิธีการป้อน : Full rigid type feed
น้ำมันหล่อลื่น : Water soluble type
ความเร็วตัด : 2.5m/min. (60RPM or 8SFM)
ผิวหน้าเกลียวของเกลียวใน
ฉันค่อนข้างประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผิวเกลียวที่ได้
ทำไมเมื่อใช้ต๊าปท่อเตเปอร์ Rc (PT) จึงมักเกิดปัญหาผิวเกลียวที่ไม่สวย และเกิดการสั่น
เนื่องจากเศษที่เกิดจากการตัดระหว่างต๊าปท่อเตเปอร์ Rc (PT) ต่างจากที่ได้จากต๊าปท่อ
แบบตรง Rp (PS)
จากแบบที่ 1 เมื่อต๊าปเกลียวเมตริก หรือต๊าปท่อแบบตรงเฉพาะส่วนหน้าที่เป็นแชมเฟอร์ จะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดเกลียว และส่วนเกลียวเต็มที่เหลือ จะทำหน้าที่ประคองเกลียวเข้าไปเฉยๆ
ส่วนเมื่อตัดเกลียวด้วยต๊าปท่อแบบที่ 2 ต๊าปจะตัดด้วยเกลียว 1/16 เตเปอร์ หมายถึง ทุกเกลียวนำมาใช้ในการตัด ทำให้เศษที่เกิดจากการตัดมีขนาดบาง เมื่อกัดเหล็กนิ่ม หรือเหล็กคาร์บอนต่ำ ตัวคมตัดจะตัดได้ไม่ดี เกิดการไถลทำให้ผิวเกลียวที่ไม่สวย และเกิดการสั่นได้
แบบที่ 1 ส่วนของการตัดของต๊าปท่อแบบตรง
ความหนาของเศษ จาก HT 4ฟัน Rp (PS) 1/4-19 3.5แชมเฟอร์ อยู่ที่ประมาณ 65μm
แบบที่ 2 ส่วนของการตัดของต๊าปท่อแบบเตเปอร์
ความหนาของเศษ จาก HT 4ฟัน Rc (PT) 1/4-19 อยู่ที่ประมาณ 5μm
ต๊าปท่อแบบตรง Rp (PS) กัดเกลียวแบบตรง ดังนั้นต๊าปจะใช้เฉพาะส่วนแชมเฟอร์เป็นคมตัด ส่งผลให้การคำนวนความยาวตัดเท่ากับความยาวแชมเฟอร์