ทำไมเมื่อใช้ต๊าปท่อเตเปอร์ Rc (PT) จึงมักเกิดปัญหาผิวเกลียวที่ไม่สวย และเกิดการสั่น
เนื่องจากเศษที่เกิดจากการตัดระหว่างต๊าปท่อเตเปอร์ Rc (PT) ต่างจากที่ได้จากต๊าปท่อ
แบบตรง Rp (PS)
จากแบบที่ 1 เมื่อต๊าปเกลียวเมตริก หรือต๊าปท่อแบบตรงเฉพาะส่วนหน้าที่เป็นแชมเฟอร์ จะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดเกลียว และส่วนเกลียวเต็มที่เหลือ จะทำหน้าที่ประคองเกลียวเข้าไปเฉยๆ
ส่วนเมื่อตัดเกลียวด้วยต๊าปท่อแบบที่ 2 ต๊าปจะตัดด้วยเกลียว 1/16 เตเปอร์ หมายถึง ทุกเกลียวนำมาใช้ในการตัด ทำให้เศษที่เกิดจากการตัดมีขนาดบาง เมื่อกัดเหล็กนิ่ม หรือเหล็กคาร์บอนต่ำ ตัวคมตัดจะตัดได้ไม่ดี เกิดการไถลทำให้ผิวเกลียวที่ไม่สวย และเกิดการสั่นได้
แบบที่ 1 ส่วนของการตัดของต๊าปท่อแบบตรง
ความหนาของเศษ จาก HT 4ฟัน Rp (PS) 1/4-19 3.5แชมเฟอร์ อยู่ที่ประมาณ 65μm
แบบที่ 2 ส่วนของการตัดของต๊าปท่อแบบเตเปอร์
ความหนาของเศษ จาก HT 4ฟัน Rc (PT) 1/4-19 อยู่ที่ประมาณ 5μm
ต๊าปท่อแบบตรง Rp (PS) กัดเกลียวแบบตรง ดังนั้นต๊าปจะใช้เฉพาะส่วนแชมเฟอร์เป็นคมตัด ส่งผลให้การคำนวนความยาวตัดเท่ากับความยาวแชมเฟอร์
ต๊าปท่อแบบเตเปอร์ Rc (PT) มีเกลียว 1/16 เตเปอร์ ตัวเกลียวเต็มของต๊าปก็จะกัดด้วย และเพิ่มขึ้นตามความเอียงเตเปอร์ จนกว่าจะได้เกลียวครบ
Interrupted Taps for Taper Pipe Threads
Long (ℓg) Type:INT-PT Short (ℓg) Type:INT-S-PT
ผมได้บอกแล้วว่า เมื่อใช้ต๊าปท่อเตเปอร์จะได้เศษ ที่บางขนาดไหนในกรณีที่ใช้ INT-PT และ INT-S-PT ต๊าปจะเป็นดังรูป และจะได้ความหนาของเศษหนาเป็น 2 เท่า เพื่อลดปัญหาที่ผิวเกลียวไม่สวย และเกิดการสั่นได้