วิธี การเลือกใช้ถ่านในเครื่องมือวัด > เครื่องมือวัด (Measuring Tool) เป็นอุปกรณ์ที่ถือว่ามีความบอบบางและต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุปกรณ์เสียหายและลดค่าความเสื่อมจากการใช้งาน เพื่อให้เครื่องมือวัดมีอายุการใช้งานยาวนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการดูแลรักษานั้นก็สามารถทำได้มากมายหลากหลายวิธี แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกระทบในระยะยาวและอาจมีผลถึงความเสียหายจนเครื่องมือวัดไม่สามารถใช้งานได้นั่นก็คือ “ถ่าน” แหล่งจ่ายหลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องมือวัดขนาดเล็กเพราะฉะนั้นการเลือกใช้ถ่านในเครื่องมือวัดมีความจำเป็นอย่างมาก
ซึ่งถ่านที่ถูกนำมาใช้กับเครื่องมือวัดคือ “ถ่านกระดุม” (button cell หรือ coin cell) แบตเตอรี่เซลล์เดียวที่มีขนาดเล็กกระทัดรัดเท่าเม็ดกระดุมแต่กลับมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงถือว่าเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่ดีเยี่ยมสำหรับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์นานาชนิด โดยถ่านกระดุมที่นิยมใช้กับเครื่องมือวัดมีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ LR44 และ SR44 ซึ่งหากมองอย่างผิวเผินแล้วถ่านกระดุมทั้ง 2 แบบนี้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางและความหนาที่ใกล้เคียงกันมาก
คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า "Industry 4.0" คืออะไร?? และเกี่ยวข้องกับคุณอย่างไร??
INDUSTRY 4.0 !! คือยุคของการผสมผสานกันระหว่างระบบ "Automation" ในสายการผลิตกับ "Internet of Things" เข้าด้วยกัน ซึ่งในยุคปัจจุบันที่อุตสาหกรรมได้วิวัฒนาการโดยก้าวเข้าสู่ความเป็น INDUSTRY 4.0นั่นก็คือยุคแห่งการพัฒนาโรงงานที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้กลายเป็น "SMART FACTORY" โดยที่เครื่องจักรในสายการผลิตสามารถสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อการจัดการ และควบคุมได้แบบ Real-time ผ่านระบบ Network ส่งผลให้การผลิตมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และต้นทุนต่ำลงอย่างชัดเจน... |
แล้วการที่จะเป็น "SMART FACTORY" ต้องทำอย่างไร??
ด้วย Concept "S.M.A.R.T. Inspection 4.0" ของเรา JSR GROUP จะเป็น Solution ที่จะนำท่านไปสู่ Industry 4.0 เราจะทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ดังเช่นคำว่า
S Simply
M Measuring
A
Winning in Ops digital transformation with agile IoT Brief overview and case studies |
AUK SUCCESSFULLY PRODUCTIZE จากโซลูชันที่ซับซ้อน สู่ระบบโมดูลาร์ที่พร้อมใช้งาน
Hardware + SaaS ที่สามารถออกแบบ และปรับใช้ได้ตามความต้องการ ง่ายต่อการขยายผล จัดส่ง และใช้งานได้ทั่วโลก
เราได้สร้างระบบที่มีประสิทธิภาพ เสมือนชุด "Lego" block ที่สามารถประกอบเข้าด้วยกัน เป็นโซลูชันพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น และยัง ตอบโจทย์ใร Process ที่มีความซับซ้อน โดยสามารถสร้างแบบจำลอง และวิเคราะห์การดำเนินงานทั้งหมดได้ด้วยตนเอง |
ลูกค้าทั่วโลกของเรา ได้รับชุดอุปกรณ์ Auk IIoT และสามารถนำไปติดตั้งกับเครื่องจักรได้ด้วยตนเอง โดยข้อมูลเครื่องจักร และการวิเคราะห์ OEE จะเริ่มสตรีมไปยังคลาวด์ และแสดงผลออกมาบนแดชบอร์ดภายใน 2 ชั่วโมง |
OUR TECHNOLOGY โครงสร้าง และผังการทำงาน
ภาพรวมของลำดับขัั้นตอน ตั้งแต่การเก็บข้อมูล ไปจนถึงการแสดงผล
เชื่อมต่อผ่านอินพุต เอาต์พุต (MACHINE I/O) เซ็นเซอร์ หรือสัญญาณการขับเคลื่อนต่างๆเหล่านี้ คือ พื้นฐานการทำงานของเครื่องจักรเหือบทุกเครื่อง |
Young Cycle was established in 1986. Young Cycle is a professional manufacturer of steel stamp / metal stamp punches and is popular in the steel stamp market in Taiwan.
|
Multifunctional Storage Case
|
ก่อนการใช้งาน 1. ใช้ผ้าแห้ง หรือผ้าชุบแอลกอฮอล์ เพื่อทำความสะอาดแกนเลื่อน (spindle) โดยไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น 2. ขยับแกนเลื่อนไปมาตลอดแนวความยาว เพื่อเช็คว่าสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างเรียบไม่ติดขัด 3. ใส่ถ่าน SR44 (Order No.938882). 4. เมื่อตั้งศูนย์ ดึงแกนเลื่อนอย่างน้อย 0.2 mm จากจุดพัก (Fig.1) 5. หลีกเลี่ยงการวัดค่าผิดพลาดอันเนื่องมาจากโคไซน์เอฟเฟค (cosine effect) ต้องมั่นใจว่าแกนเลื่อนอยู่ในแนวตำแหน่งที่จะวัดได้อย่างแม่นยำ (Photo 1) นอกจากนี้ผิวหน้าสัมผัสที่ขรุขระ อาจส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในการวัดได้ 6. หากมีการใช้เครื่องมือวัดในบริเวณที่เต็มไปด้วยละอองน้ำมัน หรือฝุ่นละออกง แนะนำให้ใช้เครื่องมือวัดประเภทกันน้ำกันฝุ่น (water/dust-proof type)
ระหว่างการใช้งาน 1. ไม่ควรขยับแกนเลื่อนอย่างเร็ว หรือใช้แรงดันในแนวข้าง เพราะอาจจะส่งผลต่อความแม่นยำของเครื่องมือวัด (Fig.2) 2. ใช้อุปกรณ์จับยึด (Holdinf fixture) มีความแข็งแรงมั่นคงระหว่างที่ใช้งานปกติ 3. ล็อคตัวยึด (lug) ให้แกนเลื่อน (spindle) อยู่แนวตั้งฉากกับผิวหน้าที่จะทำการวัด (Fig.3) แนะนำให้ใช้คานยก |
ก่อนการใช้งาน 1. ใช้ผ้าแห้ง หรือผ้าชุบแอลกอฮอล์ เพื่อทำความสะอาดแกนเลื่อน (spindle) โดยไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น (Fig.1) 2. ต้องแน่ใจว่าแกนเลื่อน และเข็มวัดสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างราบเรียบไม่ติดขัด หรือสะดุด 3. ถ้าเข็มวัด (pointer) และตัวนับรอบ (revolution counter) ชี้ไม่ตรงตำแหน่งของจุดคลาย (rest point) (ตำแหน่งที่แกนเลื่อนยืดออกสุด) (Fig.2) อาจจะเกิดจากแกนเลื่อนชำรุด ติดต่อบริษัท สำหรับการซ่อมบำรุง และอย่าพยายามถอดชิ้นส่วนเอง (Fig.3) 4. หากมีการใช้งานเครื่องมือวัดในบริเวณที่เต็มไปด้วยละอองน้ำมัน หรือฝุ่นละออกง แนะนำให้ใช้เครื่องมือวัดประเภทกันน้ำกันฝุ่น (water/dust-proof type)
ระหว่างการใช้งาน 1. ไม่ควรขยับแกนเลื่อนอย่างเร็ว หรือใช้แรงดันในแนวข้าง เพราะอาจจะส่งผลต่อความแม่นยำของเครื่องมือวัด (Fig.4) 2. ใช้อุปกรณ์จับยึด (Holdinf fixture) มีความแข็งแรงมั่นคงระหว่างที่ใช้งานปกติ (Fig.5) 3. ล็อคตัวยึด (lug) ให้แกนเลื่อน (spindle) อยู่แนวตั้งฉากกับผิวหน้าที่จะทำการวัด (Fig.3) แนะนำให้ใช้คานยก (lifting levers) สำหรับยก และปล่อยแกนเลื่อน (Fig.6)
หากไฮเกจชำรุดอันเนื่องจากการตก |
ก่อนการใช้งาน 1. ทำความสะอาดจุดสัมผัสด้วยผ้าแห้ง 2. ขยับสไตรัส (stylus) ขึ้นลงตลอดช่วงการใช้งานเพื่อเช็คว่าสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างราบเรียบไม่ติดขัด หรือสะดุด 3. ต้องแน่ใจว่าใช้สไตลัสที่มีความยาวตามมาตรฐานที่สอดคล้องกับรุ่นที่ใช้งาน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความผิดพลาดจากการวัดค่าอย่างมาก (Fig.1)
ระหว่างการใช้งาน 1. ใช้อุปกรณ์จับยึด (Holdinf fixture) มีความแข็งแรงมั่นคงระหว่างที่ใช้งานปกติ (Fig.2) 2. ไม่ควรถอดชิ้นส่วน หรือทำการปรับแต่งอินดิเคเตอร์ เนื่องจากอาจส่งผลต่อค่าความถูกต้อง และเกิดความเสียหายได้ 3. ตัวคูณมาตราส่วน (scale factor) ของไดอัลเทสอินดิเคเตอร์ขึ้นอยู่กับมุมระหว่างทิศทางการขยับของหัววัด (contact point) และทิศทางขยับของชิ้นงาน ซึ่งจะอยู่ในทิศทางเดียวกัน เมื่อทำการวางแนวให้ตรงกันเท่านั้นในทางปฏิบัติเพื่อหลักเลี่ยงค่าผิดพลาด หากค่ามุม θ (ดู Fig.3) ในระหว่างการวัดงานมีค่าน้อยกว่า 10° สามารถตัดตัวคูณมาตราส่วนออกไปได้ (ไม่ต้องนำมาคำนวณ) และหากไม่สามารถทำให้มุมมีขนาดเล็กได้ ต้องนำตัวคูณ (factor) มาคำนวณร่วมกับค่าที่อ่านได้จากไดอัลเพื่อเป็นการชดเชยค่า |
ก่อนการใช้งาน
1. ทำความสะอาดแกนเลื่อน (spindle) หน้าสัมผัว (contact point) และแกนรับ (anvil) ด้วยผ้าแห้ง หรือผ้าชุบแอลกอฮอล์บิดหมาด
2. ต้องแน่ใจว่าใส่แหวนรอง (washer) ระหว่างคันยกแกน (spindle lifting level) และแกนเลื่อน (Photo 1)
3. ไม่ควรคลายสกรูยึดโดยไม่จำเป็น (หน้าสัมผัส แกนรับฝาหลัง แกนหมุนด้านบน คันยกแกนหมุน และชิ้นส่วนต่างๆของอินดิเคเตอร์)
4. ขยับแกนเลื่อนขึ้นลงตลอดช่วงการใช้งาน เพื่อเช็คว่ามีการเคลื่อนที่ได้ดีไม่ติดขัเ
5. เช็คตำแหน่งศูนย์ของอินดิเคเตอร์เมื่อหน้าสัมผัส และแกนรับชนกัน
ระหว่างการใช้งาน
1. ไม่ควรขยับแกนเลื่อน (spindle) ขึ้นลงอย่างเร็ว หรือใช้แรงดันในแนวด้านข้าง เนื่องจากอาจส่งผลต่อความถูกต้องของเครื่องมือ (Fig.1)
2. ตัวอักษร "E" ที่ปรากฎเป็นบางครั้งบนหน้าจอในตำแหน่งสุดท้ายขณะมีการขยับแกนเลื่อนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามถ้าหากยังแสดงผลต่อไป แม้ว่าแกนเลื่อนจะไม่ขยับแล้วจำเป็นต้องนำเครื่องซ่อมบำรุง (Fig.2)
3. ถ้าตำแหน่งศูนย์ (zero point) มีการขยับ หรือเปลี่ยนขณะที่ทำการวัด ให้ทำความสะอาดจุดสัมผัส และแกนรับ และทำการตั้งค่าจุดศูนย์อีกครั้ง
ก่อนการใช้งาน
1. เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการวัดค่าของเกจบล็อกให้ใช้เกจบล็อกในสภาวะที่มีอุณหภูมิที่คงที่ ทำการชดเชยค่าจากการวัด หากอุณหภูมิโดยรอบแตกต่างไปจาก 20°C อย่างมีนัยสัมคัญ และชิ้นงานมีค่าสัมประสิทธิ์ขยายตัวต่อเนื่องจากอุณหภูมิ (coefficient of thermal expension) ไม่เหมือนกับตัวเกจบล็อก
2. ทำความสะอาดผิวหน้าการวัดของเกจบล็อกที่ใช้เพื่อป้องกันฝุ่น หรือสิ่งปนเปื้อนที่จะส่งผลต่อค่าของการวัด (กระดาษทำความสะอาด : Order No.600006).
3. ทำการตรวจสอบรอยนูน (Burrs) บนผิวหน้าของเกจบล็อกโดยใช้ออปติคอลแฟลต (optical flat) (Order No. 158-118) (Photo 1)
4. ถ้าตรวจพบรอยนูนให้ทำการขัดออกด้วยเซราสโตน (Cerastone) (Order No.601645) หรือ หินอาร์แคนซอส์ (Arkansas stone) (Photo 2)
ระหว่างการใช้งาน
1. ใช้เกจบล็อกด้วยความระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผิววัด (measuring surface) อันเนื่องมาจากการกระแทกกันของตัวเกจบล็อก หรือเกิดจากการตกหล่น (Fig.1) ความเสียหาย เช่น การเกิดรอยนูน (Burr) จะมีผลกระทบต่อความแม่นยำในการวัด
2. การประกบ (wring) เกจบล็อก 2 ชิ้น เข้าด้วยกันทำได้โดยใช้จาระบีบางๆ
ก่อนการใช้งาน
1. เช็ดผิวหน้าของก้านคาลิปเปอร์ด้วยน้ำมัน (Order No.207000) ปริมาณเล็กน้อย
2. เลื่อนตัวเลื่อน (Slider) ไปตลอดแนวของก้านคาลิปเปอร์ (Beam) เพื่อตรวจสอบว่าการเลื่อนเป็นปกติไม่ติดขัด
3. ใส่ถ่านขนาด SR44 (Order No.938882) โดยให้ขั้วบวกอยู่ด้านบน (Fig.1)
4. ทำความสะอาดปากวัดแล้วเลื่อนตัวเลื่อนไปสุดตำแหน่งให้ปากวัดประกบกัน จากนั้นกดปุ่ม ORIGIN เพื่อทำการตั้งศูนย์ (Fig.2)
5. หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว เลื่อนปากวัดมาชนกันแล้วตรวจสอบดังต่อไปนี้ :
• ปากวัดในที่มีสภาพดีเมื่อประกบกันจะต้องมองไม่เห็นแสงรอดผ่าน (Fig.3)
• หากผิวหน้าของปากวัดสกปรก หรือเป็นรอย ปากวัดทั้งสองด้านจะไม่สามารถประกบชิดกัน เกิดช่องว่าที่แสงรอดผ่านได้ (Fig.4)
ระหว่างการใช้งาน
1. ใช้แรงกดที่ระหว่างทำการวัด และทำการวัดชิ้นงานโดยวางชิ้นงานในใกล้กับโคนของปากวัด (Fig.5)
2. ไม่ควรวัดชิ้นงานในขณะที่ปากวัดเอียง (Fig.6)
หากคาลิปเปอร์ชำรุดเนื่องจากการตก หรือกระแทกอย่างแรง หรือสาเหตุอื่นๆ ห้ามใช้บอร์เกจนั้น และให้ติดต่อกลับบริษัท เพื่อทำการซ่อมแซม